วันอังคารที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2554

ดอกทิวลิป

 คำว่าทิวลิปมาจากไหน
          คำว่า "ทิวลิป" หรือ Tulip นี้ เชื่อกันว่ามาจากชื่อที่เรียกผ้าโพกศีรษะของชาวสลาฟ(คือชนชาวรัสเซียน,บัลกาเรียน, โบฮีเมียน และชาวโพล) ซึ่งชาวตุรกีเรียกผ้าโพกศีรษะนี้ว่า tulbend และในภาษาเปอร์เซียว่า tulipant อังกฤษว่า turban ส่วนผ้าโพกศีรษะที่เขียนว่า toliban เมื่อเปลี่ยนเป็นภาษาละตินก็กลายเป็น tulipa ใช้จินตนาการนิดหน่อย ดอกทิวลิปก็ดูลักษณะคล้ายผ้าโพกศีรษะ แต่ที่มาของคำจริงๆ นั้นไม่มีใครทราบ ราวศตวรรษที่ 18 ทิวลิปมีชื่อประจำตัวมากมายตามบุคคลที่มียศถาบรรดาศักดิ์ เช่น อเล็กซานเดอร์มหาราช, ดยุคแห่งวองโดม,จักรพรรดิแห่งเยอรมนี หรือดยุคแห่งคาร์ลโบโรห์ ไม่มีดอกไม้ชนิดใดมีประวัติผาดโผนเช่นทิวลิปอีกแล้ว
ลักษณะดอกทิวลิป
         ทิวลิปเป็นพืชใบเลี้ยงเดี่ยว รูปใบเล็กเรียวยาว ปลายใบแหลม เส้นแขนงใบจะเป็นแนวขนานไปตามความยาวของใบ และเรียวลู่ไปรวมกันที่บริเวณปลายใบ ใบแต่ละใบจะออกสลับทิศทางตรงข้ามกัน ต้นหนึ่งๆ จะออกใบประมาณ 3-4 ใบ โดยปรกติทิวลิปจะมีขนาดสูงระหว่าง 12-18 นิ้ว ซึ่งก็ต้องแล้วแต่พันธุ์และชนิดของทิวลิปแต่ละอย่าง ดอกของทิวลิปก็เช่นเดียวกัน มีหลายแบบ หลายสี และหลายขนาด แต่โดยปรกติดอกทิวลิปจะเป็นดอกไม้รูปถ้วย ยามบานไม่บานแฉ่ง แต่จะบานเพียงแค่แย้มๆ กลีบออก ให้รู้ว่าเป็นดอกทิวลิปที่บานแล้ว แต่อย่างบายแฉ่งก็มีบ้าง เหมือนกัน เช่น พวกดอกทิวลิปซ้อนหลายๆ ชั้น ปรกติดอกทิวลิปจะมีกลีบดอกซ้อนกันเพียง 2 ชั้นๆ ละ 3 กลีบ กลีบดอกของทิวลิปมีสีสันต่างๆ มากมายหลายเฉดสี นับตั้งแต่สีแสด แดง ส้ม เหลืองเข้ม เหลือง เหลืองอ่อน ชมพู ขาว และสีสลับลายหลายอย่าง มีทั้งสีเดียวล้วนๆ และสีผสมในดอกเดียว หรือที่เรียกว่า ”Broken Tulips” เกสรผู้เป็นสีเหลืองอ่อน หรือขาวเป็นแท่งรูปหัวศรมี 6 เส้น เกสรเมียมีขนาดโตกว่าเกสรผู้ อยู่กึ่งกลางเกสรผู้ เป็นลักษณะแท่งรูปสามเหลี่ยมยาว 2 - 2.5 เซนติเมตร ( ซึ่งมีขนาดยาวไล่เลี่ยกับเกสรผู้ ) ปลายเกสรเมียแต่ละเหลี่ยม งอลงเป็นสามแฉก ส่วนที่ปลายเกสรผู้บางพันธุ์อาจจะเป็นติ่งสีน้ำตาลเข้ม หรือสีดำก็มี

 ดอกแรกในตำนาน
          ในประเทศเปอร์เซียนั้น นักพฤกษาวิทยาได้เคยพบต้นทิวลิปป่าขึ้นอยู่มาก และในละแวกใกล้ๆ กับเมืองคาบูลในอัฟกานิสถาน ก็พบว่ามีต้นทิวลิปต่างๆ ขึ้นอยู่ในพื้นที่มากมายถึง 33 พันธุ์ ด้วยเหตุนี้ชาวเปอร์เซียนจึงมีเรื่องตำนานอันเก่าแก่ ที่เกี่ยวข้องอยู่กับเรื่องของทิวลิปมากกว่าชนชาติใดๆ ในโลก ทิวลิปดอกแรกที่ปรากฏอยู่ในตำนานนั้น ได้แก่ ดอกทิวลิปสีแดงสด ซึ่งชนชาวเปอร์เซียนโบราณเชื่อกันว่าเป็นสัญลักษณ์ของหยดเลือดและความรักอันจิรังกาล ที่พบอยู่เสมอในบทกวี บทเพลงพื้นบ้าน หรือในภาพเขียนลายเส้น หรือภาพสีน้ำมันของชาวเปอร์เซียนในยุคโบราณ ราชอาณาจักรตุรกียุคโบราณ (Ottoman Empire) ก็เคยใช้ดอกทิวลิปสีแดง เป็นสัญลักษณ์มาก่อนเช่นเดียวกัน ต่อมาความเชื่อนี้จึงค่อยแพร่ขยายเข้าไปสู่ในยุโรป แม้ในจักรวรรดิ์โรมัน ก็มีการใช้ดอกทิวลิปเป็นสัญลักษณ์ ขององค์จักรพรรดิหลายพระองค์อีกด้วย ประวัติและตำนานของดอกทิวลิปนั้นจึงมีอยู่มากมาย เพราะก่อนที่ทิวลิปจะเข้ามาสู่ในโลกของพฤกษศาสตร์ ชนหลายชาติก็เคยรู้จัก และเคยปลูกทิวลิปด้วยกันมาก่อนแล้วทั้งนั้น ใน Encyclopedia จึงอ้างว่า มนุษย์เรียกชื่อของทิวลิปแตกกันอยู่นั้นมีมากกว่า 4,000 ชื่อ แต่สำหรับทิวลิปพันธุ์ที่เรียกกันว่า “ทิวลิปา กีสนีเรียนา” นี้ ได้เริ่มเป็นที่รู้จักกันในยุโรปเมื่อ อาจารย์คอนแรดเกสเนอร์ (Conrad Gesner) นักพฤกษาวิทยาแห่งสวนพฤกษศาสตร์ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ได้เขียนเรื่องและรูปของทิวลิปพันธุ์นี้พิมพ์เผยแพร่ขึ้นในปีพ.ศ.2104 โดยที่พระอาจารย์เกสเนอร์ใช้แผ่นทองแดงเป็นแม่พิมพ์ ครั้นต่อมาภายหลังพระอาจารย์ลินเนียส ก็ได้นำทิวลิปนี้ไปขึ้นทำเนียบไว้ในหนังสือ Systema Naturae ของท่านในพ.ศ. 2280 ทิวลิปต้นนี้ จึงได้นามว่าเป็นทิวลิปา กีสนีเรียนา มาตั้งแต่ในพุทธศกนั้น

http://www.kln.ac.th/30204/08-301-39-%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B8%8A%E0%B8%99%E0%B8%B2/index.htm

ไร่องุ่นซิเวอร์เลค พัทยา

            ไร่องุ่นใกล้เมืองพัทยา นาม“ซิลเวอร์เลค”(Silverlake) ห้เป็นอาณาจักรทั้งผลิตและจำหน่ายองุ่นสด ผลิตภัณฑ์ แปรรูปจากองุ่น และล่าสุดเป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ประจำเมืองพัทยา ซึ่งเจ้าของไร่องุ่นแห่งนี้เป็นของอดีต นางเอกชื่อดัง คุณสุพรรษา เนื่องภิรมย์ สุพรรษา เล่าแรงบันดาลใจเกิดขึ้นเมื่อประมาณ 5-6 ปีที่แล้ว มีโอกาส เข้าชม ไร่องุ่นต่างๆ ในประเทศสหรัฐอเมริกา พบว่า หลายแห่งมีสภาพแวดล้อมค่อนข้างแห้งแล้ง เป็นป่าเขาโล้น แต่ก็สามารถ ทำไร่องุ่นได้ จึงเกิดความสนใจ อยากนำที่ดินใน ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ซึ่งเธอและสามี ซื้อเก็บไวมาพัฒนา้ เป็นไร่องุ่นดูบ้าง  จากนั้นได้เชิญเจ้าของไร่องุ่นชาวอเมริกันท่านหนึ่ง มาช่วยพิจารณา ดูสภาพ แวดล้อมที่ดินดังกล่าวว่า สามารถพัฒนาเป็นไร่องุ่นได้หรือไม่ ซึ่งได้รับการยืนยันว่าเหมาะจะทำไร่องุ่นอย่างยิ่ง ด้วยจากข้อได้เปรียบพื้นที่ไร่่ติด กับ“พระพุทธแกะสลัก เขาชีจรรย์”และอยู่ใกล้ตัวเมืองพัทยาแค่ 20 กิโลเมตร สุพรรษา จึงปรับปรุงภูมิทัศน์ไร่องุ่น “ซิลเวอร์เลค” ให้สวยงาม รองรับเป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ของเมืองพัทยา โดยไม่คิดค่าเข้าชม
            กิจกรรมภายในไร่ จะเน้นให้นักท่องเที่ยวสัมผัสบรรยากาศการทำไร่องุ่นตามธรรมชาติจริงๆสามารถร่วมกิจกรรม ที่น่า สนใจกับรถ ATV ที่ให้คุณได้สัมผัสบรรยากาศกับการขี่เข้าชมไร และกิจกรรมอื่นๆ ที่เราจะรังสรรค์ขึ้นให้คุณ ใน อนาคต ่พร้อมบันทึกความทรงจำของความงามครั้งนี้ได้อย่างมิรู้ลืม ณ ไร่องุ่นซิลเวอร์เลค “Silverlake, Pattaya Grape Escape  ในปัจจุบัน ทางไร่ได้เพิ่มกิจกรรมต่างๆมากขึ้นเพื่อให้ผู้เข้าเยี่ยมชมไร่ได้สัมผัสกับ บรรยากาศอันสวยงาม ของทางไร่ได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการนั่งรถม้าชมไร่ หรือขี่จักรยานเสือภูเขาลัดเลาะ ไปตามแนวปลูก องุ่นของไร่ หรือนั่งช้างชมบรรยากาศอันงดงาม นอกจากนั้นท่านยังสามารถสัมผัสบรรยากาศ พระอาทิตย์ตกกลางทะเลสาบโดยขี่ จักรยานน้ำซึ่งจะเป็นภาพที่ท่านมิอาจลืมได้ในอนาคตอันใกล้นี้







http://www.paiduaykan.com/76_province/east/chonburi/silverlake.html

Strawberry

สตรอเบอรี่ ผลไม้แห่งความรัก "สุขภาพ"
 แทนความรักด้วย "สตรอเบอรี่"
มอบผลไม้น่ารักกุ๊กกิ๊ก แทนความรักด้วยโลกสีชมพูกับ "สตรอเบอรี่" ที่จะทำให้ความรักของคุณหวานซ่อนเปรี๊ยว เฉกเช่นสตรอเบอรี่ ที่เรากำลังจะพูดถึงนี้


        สตรอเบอรี่ ในประเทศไทย มีประวัติความเป็นมายาวนาน คือมีการนำพันธุ์เข้ามาทดลองปลูกหลายยุคหลายสมัยทางภาคเหนือและนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างสูง ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ได้พระราชทานต้น พันธุ์สตรอเบอรี่ ที่คัดสรรมาแล้วอย่างดี ได้แก่ พันธุ์แคมบริดจ์แฟเวอริท , พันธุ์ทีโอก้า และพันธุ์ซีควอเอีย แก่เกษตรกร หรือรู้จักกันในนามพันธุ์พระราชทาน 13, 16 และ20 ตามลำดับ

"ช่วยป้องกันเลือดออกตามไรฟัน"
         จนมาถึงตอนนี้สตรอเบอรี่ กลายเป็นผลไม้ที่สำคัญมากอย่างหนึ่งของภาคเหนือ สามารถส่งออกได้ทั้งในลักษณะแช่แข็ง ทำเงินเข้าประเทศได้ อย่างกว้างขวาง ทั้งในรูปแบบรับประทานสดและแปรรูป สร้างรายได้แก่ เกษตรกรอย่างมาก และในแง่โภชนาการแล้ว "สตรอเบอรี่" ยังมีวิตามินเอ ฟอสฟอรัส แคลเซียม และที่สำคัญคือมีวิตามินซี จำนวนมหาศาล โดยในวิตามินซีนั้นมีกรดอินทรีย์สำคัญที่เรียกว่า "กรดแอสคอร์บิก" (ascorbic acid) ซึ่งช่วยป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน ช่วยเพิ่มภูมิต้านทานของร่างกายต่อโรคภัยต่างๆ เช่น โรคภูมิแพ้ โรคหวัด เป็นต้น ที่สำคัญคือ ช่วยชะลอความแก่และริ้วรอยก่อนวัยอันควร
"ต้านอนุมูลอิสระ"
         นอกจากสตรอเบอรี่แล้ว ยังมีในผลไม้อีกหลายชนิด เช่น ส้ม ฝรั่ง มะเขือเทศ กะหล่ำปลี บร็อคเคอรี่ และผักขมแล้ว ด้วยผลที่มีสีแดงสดของสตรอเบอรี่ ยังทำให้มีส่วนประกอบของสารสำคัญที่ชื่อว่า แอโธไซ-ยานิน (anthocyanin) ซึ่งมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ และช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ ช่วยลดอัตราเสี่ยงของการเกิด โรคหัวใจและเส้นเลือดอุดตันในสมอง ชะลอความเสื่อมของดวงตาที่สำคัญคือยังช่วยยับยั้งเชื้ออีโคไลในระบบทางเดินอาหาร ซึ่งเป็นสาเหตุการเกิดโรคท้องร่วงและอาหารเป็นพิษอีกด้วย
ต่อไปนี้โลกสีชมพูของคุณที่เติมเต็มด้วยสตรอเบอรี่ นอกจากจะอิ่มเอมรักแล้วยังสร้างสุขภาพอีกด้วย

http://variety.teenee.com/foodforbrain/585.html